ซาลาห์สุดโหด  ฉายฟอร์มเทพคุ้มค่าตัว “คล้อปป์”เชื่อไม่หยุดแค่นี้

โชว์ฟอร์มได้อย่างคุ้มค่าตัวเหลือเกินสำหรับปีกร่างเล็ก “โมฮัมเหม็ด ซาลาห์” แข้งหงส์แดง ลิเวอร์พูลที่เพิ่งย้ายมาจากหมาป่า โรม่า ลีกดังแห่งอิตาลีเมื่อซีซั่นที่แล้ว

กองหน้าชาวอียิปต์ร่างเล็กรายนี้ร่ายมนต์ ถล่มประตูสุดโหดให้กับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลในซีซั่น 2017-2018ไปแล้วอย่างถล่มทลาย หลังจากที่ย้ายมาด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์เศษ ๆ ถือว่าเป็นนักเตะค่าตัวที่สุดคุ้มที่เจอร์เกน คล็อปป์เทรนเนอร์ชาวเยอรมันซื้อมา

โดยที่ผลงานของนักเตะรายนี้สามารถถล่มประตูไปถึง 30 ประตู จากการลงเล่นให้กับทีมต้นสังกัด เพียงแค่ 36 เกมเท่านั้น อย่างไรก็ตามเจอร์เกน คล็อปป์ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่า “เขามีความสำคัญกับทีมเราเป็นอย่างมาก เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเวลานี้” การทำประตูและการโชว์ฟอร์มของเขาสามารถที่จะทำให้เราเป็นผู้ชนะได้เสมอ พวกเราได้พูดถึงเขาแล้วเมื่อช่วงก่อนหน้านั้น ว่าเขามีความพร้อมในทุก ๆ ส่วนของทีมในเวลานี้ เขามีความคมและเฉียบขาด ขณะที่คู่หูของเขาอย่างซาดิโอ มาเน่ ก็เริ่มที่จะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการเล่นของตนเองแล้ว เขาเป็นผู้เล่นที่ดีเช่นกัน ส่วนฟีร์มีนู เขาทำงานหนักมาอย่างตลอดถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทีมเราในเวลานี้”

“โมฮัมเหม็ด ซาลาห์” กองหน้าวัย 25  ปี ถือเป็นนักเตะที่มีความเร็วสูงเป็นอย่างมากคนหนึ่งของสโมสร นับตั้งแต่ที่ลิเวอร์พูลมีปีกความเร็วสูงอย่าง  เฟรด เฟเนเกนท์ ยุคสมัย 1915 ซึ่งถือว่าเป็นผู้เล่นที่มีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกัน อีกอย่างความสามารถของแข้งชาวอียิปต์รายนี้ มีทั้งความพลิ้ว ครองบอลแน่น ยากที่คู่ต่อสู้จะแย่งได้ มีความเร็วและสามารถช่วยทีมในเกมรับอีกด้วย ด้วยค่าตัว 36.9 ล้านปอนด์ถือว่าเกินคุ้มสำหรับทีมหงส์แดงเป็นอย่างมาก

เมื่อไม่กี่ปีมานี้ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล เคยมีนักเตะอย่างมักซี โรดริเกซ ปีกชาวอาร์เจนไตน์ ที่มีลักษณะการเล่นสไตล์นี้เช่นกันอีก ทั้งแฟนบอลรุ่นสมัยเรา ๆ น่าจะรู้จักกันดี ทว่าแข้งรายนี้ไม่สามารถที่จะโชว์ผลงานได้อย่างเหนือฝีเท้าได้สักเท่าไหร่

กลับมาที่คล็อปป์ เทรนเนอร์ของทีมหงส์แดง เป็นกุนซือจอมแท็คติก ที่สร้างเกมรุกได้อย่างสะใจแฟนบอล เจ้าตัวเองยังเชื่อว่าแข้งชาวอียิปต์รายนี้ สามารถที่จะสร้างผลงานให้แฟนบอลทีมหงส์แดง ได้ทึ่งมากกว่านี้อย่างแน่นอน และสามารถที่จะทำประตูช่วยให้ทีมผงาดคว้าแชมป์สักรายการใดรายการหนึ่งได้ในอีกไม่ช้า แฟนบอลอย่างเราคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าลิเวอร์พูลจะคว้าแชมป์ในปีนี้ได้หรือไม่