สำหรับฟุตบอลนั้น ช้า ๆ ไม่ได้พร้าสักเล่ม

ถ้าพูดถึงสโมสรใหญ่ทุกคนคงนึกถึงทีมที่มีฐานแฟนบอลอยู่ทั่วโลก มีเม็ดเงินมหาศาล ในทีมประกอบด้วยแข้งระดับเวิร์ลคลาสมากมาย แต่ทีมใหญ่ที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้ตรงกันข้ามกับทุกอย่างที่กล่าวไป ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนแทบทุกปี แถมตกชั้นเป็นว่าเล่น ไม่มีนักเตะระดับโลกอยู่เลย หลายคนคงนึกออกทันใด ใช่แล้วล่ะนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดนั่นเอง

ไมค์ แอชลีย์ประธานสโมสรคือคนที่เหล่าบรรดาทูนอาร์มี่จงชังกว่าใคร เขาคือคนที่ทำให้นิวคาสเซิ่ลทรง ๆ ทรุด ๆ อยู่ตลอดเพราะนโยบายการบริหารสโมสรที่ไร้ความทะเยอทะยาน ไมค์ แอชลีย์หวังพึ่งฟ้าพึ่งฝนให้ทีมใช้เงินน้อยที่สุดในขณะเดียวกันก็หวังว่าผลงานของนักเตะที่มีจะดีขึ้นมาแบบฟลุ๊ค ๆ เพื่อจะขายนักเตะที่ทำผลงานดีเหล่านั้นออกไปแบบแพง ๆ  เช่นเดียวกับกรณีจิออจิโอ้ ไวจ์นัลดุมกับมุสซ่า ซิสโซโก้ที่ได้เงินรวมกันกว่า 70 ล้านปอนด์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป้าหมายของทีมมีเท่านี้จริง ๆ คือซื้อนักเตะถูก ๆ มาปั้นเพื่อขายออกไปโดยไม่สนผลงานของทีมถึงจะตกชั้นก็ตาม แสบกว่านั้นคือแม้จะขายนักเตะได้เงินมหาศาลแต่เงินจำนวนนั้นไม่ได้นำมาปรับปรุงทีมเลย ประธานสุดตืดยังคงจำกัดทุนในการทำทีมไว้แค่ 15-30 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งราฟาเอล เบนิเตซออกมาบ่นผ่านสื่อเลยว่าเจ้าของสโมสรผู้นี้ไม่รักษาคำพูดกับเขาทั้งที่ก่อนเซ็นสัญญาคุมทีมมีการรับปากว่าจะให้งบช็อปนักเตะกับเบนิเตซแบบไม่อั้นแต่พอเอาเข้าจริง ๆ ให้งบสำหรับการทำทีมลุยพรีเมียร์ลีกแค่ 15 ล้านปอนด์เท่านั้น แน่นอนหลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดการทีมกับเจ้าของสโมสรเกิดความไม่ลงรอยมาตลอด

แต่แล้ววันฟ้าเปิดของราฟาเอล เบนิเตซและบรรดาสาวกทูน อาร์มี่ก็มาถึงเมื่ออยู่ ๆ ไมค์ แอชลีย์ประกาศขายสโมสรแบบที่ใครก็คาดไม่ถึง จากนั้นไม่นานก็ได้อแมนด้า สเตฟลี่ย์เศรษฐีณีนักธุรกิจติดต่อขอเทคโอเวอร์สโมสร ทุกอย่างดูราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดีและดูท่านิวคาสเซิ่ลจะได้เจ้าของใหม่อยู่รอมร่อแต่ท้ายที่สุดการเจรจาล่มไม่เป็นท่าเพราะไมค์ต้องการขายสโมสรด้วยราคาสุดแพงชนิดเป็นไปไม่ได้ เศรษฐีณีจากยอร์เชียร์เห็นว่าถูกเอาเปรียบเกินไปจึงเซย์โนแล้วเดินจากไปแบบไม่หวนกลับอีกเลย ท้องฟ้าเมืองนิวคาสเซิ่ลกลับสู่ความอึมครึมอีกครั้งจนถึงช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมาเมื่อทีมอย่างนิวคาสเซิ่ลจมอยู่ก้นตาราง มูลค่าของสโมสรตกลงไปและไมค์ แอชลีย์เห็นท่าไม่ดีจึงพร้อมขายนิวคาสเซิ่ลจริง ๆ เสียที บุญพาวาสนาส่งเมื่อคนที่สนใจเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรคือกลุ่มทุนตะวันออกกลางของ ชีค คาเลด บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ญาติของชีค มานซูฯเจ้าของทีมแมนฯซิตี้ ขึ้นชื่อว่ากลุ่มทุนจากอาหรับแฟนนิวคาสเซิ่ลได้ฝันหวานเลยว่าทีมจะติดปีกทองบินสูงสู่หัวตารางได้แน่ ๆ ทว่า…อาจไม่ง่ายอย่างนั้นเมื่อถูกฟีฟ่าแตะเบรกชี้ว่าการควบกิจการของกลุ่มทุนอาหรับอาจมีความผิดและนั่นทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปอีก

สถานการณ์ตอนนี้ของนิวคาสเซิ่ลคือเจ้าของเก่าไม่อยากลงทุนอะไรกับทีมแล้วเพราะหวังจะขายสโมสรและได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย ในขณะเดียวกันกลุ่มทุนที่จะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรก็จ่ายเงินเต็มจำนวนอย่างที่เจ้าของเก่าตั้งราคาสุดโหดไว้ไม่ได้เพราะเกินราคาประเมินจริงค่อนข้างมากซึ่งนั่นเสี่ยงผิดกฏการเงินของฟีฟ่าเต็ม ๆ ส่วนผู้จัดการทีมอย่างราฟาเอล เบนิเตซก็กำลังจะหมดสัญญากับทีมอีกในไม่กี่วันนี้และไม่มีการเจรจาเพื่อขยายสัญญาของกุนซือมากฝีมือแต่อย่างใด ทุกอย่างสำหรับนิวคาสเซิ่ลกำลังถูกดึงให้ช้า ความเชื่องช้านี้ทำให้แฟนบอลหวาดหวั่นว่าหากเปลี่ยนมือเจ้าของทีมไม่สำเร็จ สโมสรเสียราฟาเอล เบนิเตซไป นักเตะที่มีพากันย้ายออก หานักเตะมาทดแทนได้ไม่ทันเปิดฤดูกาลท้องฟ้าของเมืองนิวคาสเซิ่ลคงจะยิ่งมืดมิดกว่าเดิมจนไม่เหลือแสงใด ๆ ส่องลงมาให้เป็นความหวังอีกแล้ว