Browsing Category: ฟุตบอลต่างประเทศ

เปิดประวัติเจ้าหนูมหัศจรรย์คนล่าสุด “ชูเอา เฟลิกซ์”

เชื่อว่าแฟนบอลที่ติดตามข่าวสารของวงการฟุตบอลอยู่เสมอคงเคยได้ยินชื่อนักเตะคนหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของฟุตบอลลีกในยุโรป “ชูเอา เฟลิกซ์” คือชื่อที่หลายคนสงสัยว่าเขาเป็นใคร? เหตุใดจึงมีชื่อปรากฏเป็นผู้ทำประตูหรือแอสซิสให้เบนฟิก้าอยู่เรื่อย ๆ? จากความสงสัยนั้นวันนี้เราจะพาไปเปิดโปรไฟล์ไขข้อข้องใจเพื่อทำความรู้จักกับดาวรุ่งสุดฮ็อตจากแดนฝอยทองผู้นี้ว่ามีดียังไงทีมใหญ่ถึงพร้อมทุ่มกว่าร้อยล้านยูโรเพื่อกระชากเขาจากอ้อมอกของทีมตราเหยี่ยว ชูเอา เฟลิกซ์ ชื่อเต็ม Joao Felix Sequeira เกิดที่เมือง Viseu ประเทศโปรตุเกส เมื่อ 19 พฤศจิกายน 1999 อายุ 19 ปี สัญชาติ โปรตุกีส สโมสรปัจจุบัน SL Benfica ตำแหน่ง Second Striker, Centre Forward, Right Forward ประวัติโดยย่อ ชูเอา เฟลิกซ์เป็นนักเตะฝึกหัดในอะคาเดมี่ dragon force ของปอร์โต้ตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ หลายปีผ่านไปเขาสอบตกไม่ได้รับการเซ็นสัญญาให้เป็นนักเตะเยาวชนของปอร์โต้ กลายเป็นแข้งเยาวชนไร้สังกัดอยู่หนึ่งปีเต็ม ในปี 2015 ทางเบนฟิก้าให้โอกาสเขาได้ทดสอบฝีเท้าและมองเห็นพรสวรรค์จากนั้นจึงได้จับเจ้าหนูแข้งทองเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนของ Benfica U17 ด้วยฝีเท้าเกินวัยเฟลิกซ์จึงขยับจากทีม U17 ขึ้นสู่ทีม U19 ในปี 2016 จากนั้นในปี […]

เหตุผลเหล่านี้บ่งบอกว่าเหตุใดแฮร์รี่ แม็กไกวร์จึงสมควรจะมีค่าตัวเป็นสถิติโลก

ฟุตบอลคือเกมกีฬาที่แพ้ชนะกันด้วยการทำประตูจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้เล่นแนวรุกอันมีความสามารถยิงประตูได้ดีหรือสร้างสรรค์โอกาสให้ทีมสามารถทำประตูได้บ่อย ๆ จะมีราคามหาศาล ในขณะเดียวกันหากเกมรุกดีแต่เกมรับอ่อนยวบยาบทีมก็มีสิทธิ์ถูกตีเสมอหรือเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แม้จะทำประตูได้ก็ตาม ปัจจุบันผู้เล่นแนวรับจึงมีมูลค่ามหาศาลไม่แพ้บรรดาตัวรุกเลย และหลังจากลิเวอร์พูลได้ทลายกำแพงค่าตัวผู้เล่นในแนวรับด้วยการทุ่มเงินกว่า 75 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวเวอร์กิล ฟาน ไดคจ์กองหลังชื่อดังหลายคนจึงขยับมูลค่าตามกันไปด้วยไม่เว้นแม้แต่แฮร์รี่ แม็กไกวร์ว่าที่เจ้าของสถิติใหม่ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้บ่งบอกว่าเหตุใดแมนเชสเตอร์ ซิตี้จึงกำลังจะจ่ายเงินกว่า 80 ล้านปอนด์เพื่อแลกกับลายเซ็นของเขา การเล่นเกมรับ แม้จะมีรูปร่างท้วมแต่แฮร์รี่ก็มีความเร็วพอตัว มีความคล่องตัวสูง เป็นกองหลังที่วิ่งตามประกบผู้เล่นที่มีความเร็วได้ หากต้องยืนคุมโซนก็ทำได้ดีเพราะรูปร่างที่ใหญ่โตทำให้สกัดกั้นแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามได้สบาย ทั้งยังสามารถเล่นกับบอลได้แบบที่เป็บ กวาดิโอล่าชื่นชอบเพราะฟุตบอลสไตล์เป็ปคือการขึ้นเกมรุกจากแนวหลังนั่นเอง การเล่นลูกกลางอากาศ ความสูงใหญ่ของเขาไม่เสียเปล่าเมื่อสามารถชนะในการดวลลูกกลางอากาศได้เสมอแถมเมื่อเจอทีมอุดที่ผู้เล่นแนวรุกทำประตูไม่ได้แฮร์รี่ยังมีออปชั่นเสริมทำประตูจากลูกเซ็ตเพลย์ช่วยทีมในยามคับขันได้ด้วย บุคลิก แฮร์รี่ แม็กไกวร์เป็นผู้เล่นที่วินัยดีเยี่ยมและมีความเป็นผู้นำสูง ซึ่งในปัจจุบันที่ชื่อเสียงรวมทั้งเงินตราเป็นสิ่งล่อใจเช่นนี้นักเตะแบบเขาหาได้ยากยิ่งจึงไม่แปลกที่จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แฮร์รี่ เคน รวมทั้งแกเร็ธ เซาต์เกตผจก.ทีมชาติอังกฤษจะมองว่าพ่อหนุ่มคนนี้เหมาะจะเป็นรองกัปตันหรือกัปตันทีมชาติอังกฤษในอนาคต ความฟิต แม้จะกรำศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียมาเช่นเดียวกับขุนพลทีมชาติอังกฤษคนอื่น ๆ แต่ปราการหลังเลือดผู้ดีก็ไม่ได้แสดงความอ่อนล้าออกมาแต่อย่างใดยังคงลงสนามให้เลสเตอร์ ซิตี้ได้กว่า 32 เกมในฤดูกาลที่ผ่านมา อาการบาดเจ็บ แม้จะมีอาการบาดเจ็บที่เข่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมาแต่นั่นคือการบาดเจ็บครั้งเดียวตลอดการค้าแข้งของแฮร์รี่ แม็กไกวร์ทั้งยังไม่ถึงกับต้องผ่าตัดแต่อย่างใด ซึ่งเพียงแค่สามสัปดาห์เขาก็สามารถกลับมาลงซ้อมเรียกความฟิตและในอีกสองอาทิตย์ถัดมาก็วิ่งปร๋อในเกมพรีเมียร์ลีกได้แล้ว คุณสมบัติที่เรายกมาอ้างอิงทั้งหมดนี้อาจไขข้อสงสัยของหลายคนว่าเหตุใดแฮร์รี่ แม็กไกวร์จึงสมควรมีมูลค่ากว่า 80 ล้านปอนด์ ที่น่าอัศจรรย์ใจกว่านั้นคือเมื่อปีกลายเขามีมูลค่าเพียงแค่ 8 ล้านปอนด์เท่านั้น เท่ากับว่าไม่ถึงสองปีมูลค่าของเจ้าหนุ่มจากเมืองเชฟฟิลด์ขยับขึ้นถึงสิบเท่าเลยทีเดียว น่าทึ่งใช่ไหมล่ะ?

วีรกรรมสุดแสบของเนย์มาร์ตลอดสองปีในถิ่นพาร์ค เดส์ แพร็งซ์

ช่วงสองปีหลังที่ “เนย์มาร์” ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติบราซิลย้ายออกจากบาร์เซโลน่าสู่ถิ่นพาร์ค เดส์ แพร็งซ์ของปารีส แซงต์ แชร์แมงไม่ว่าดาวเตะจอมลีลาขยับทำอะไรก็กลายเป็นข่าวแทบทั้งนั้น ทั้งเรื่องนอกหรือในสนาม ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม ไปจนถึงเรื่องสัพเพเหระอีกนับไม่ถ้วน สำคัญคือส่วนใหญ่เรื่องราวที่ผ่านหูผ่านตาสาธารณชนมักจะเป็นข่าวด้านลบเสียทั้งสิ้น และเรื่องราวเหล่านี้แหละคือวีรกรรมสุดแสบที่เนย์มาร์ก่อไว้ภายในสองปีกับ PSG ก่อนยื่นเรื่องขอขึ้นบัญชีย้ายทีมแบบช็อกวงการฟุตบอล หลังจากย้ายไปร่วมทีม PSG ได้ไม่นานเนย์มาร์แกรนด์ โอเพนนิ่งด้วยการก่อเหตุสุดฉาวแย่งกันยิงจุดโทษกับเอดิสัน คาวานี่ทั้ง ๆ ที่คาวานี่ถูกผู้จัดการทีมวางให้เป็นมือหนึ่งในการทำหน้าที่สังหารจุดโทษ ซึ่งหลังจากนั้นทั้งคู่ก็มีความไม่ลงรอยกันเสมอมา ส่วนหนึ่งมองว่าเนย์มาร์ต้องการประตูเพื่อบวกสถิติในอาชีพอีกส่วนเผยว่าในสัญญากับ PSG หนึ่งประตูของเขามีมูลค่ากว่า 25,000 ยูโร ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเหตุผลใดที่ทำให้เขาสร้างเรื่องงามหน้าในขณะนั้น เนย์มาร์ยังก่อวีรกรรมสุดกร่างอย่างการปาบอลอัดกำแพงตอนซ้อมเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ให้ความเคารพอูไน เอเมอร์รี่เมื่อครั้งเป็นผู้จัดการทีมรักษาการแถมยังมีอีกหลายครั้งที่เขารวมหัวกันกับเพื่อนร่วมทีมขัดคำสั่งไม่เล่นตามแผนที่กุนซือวางไว้อีกด้วย ไม่มีอีกแล้วหนุ่มน้อยขี้อายที่มีความสุขกับการเล่นฟุตบอล แดนน้ำหอมทำให้เนย์มาร์กลายเป็นซุป’ตาร์ไปจริง ๆ เขาเปลี่ยนไปทั้งการแต่งตัวที่เน้นแบรนด์เนมสไตล์หลุดโลก ความประพฤติสุดเยอะแบบที่คนดังทำกัน และปาร์ตี้กับเหล่าเซเล็ปที่เขาใช้เวลากับมันมากกว่าฟื้นฟูอาการบาดเจ็บหรือเล่นฟุตบอลเสียอีก เมื่อทีมแพ้ในนัดชิงฟุตบอลเฟร้นส์คัพตอนขึ้นไปรับเหรียญเงินเนย์มาร์ที่อารมณ์บูดได้โต้เถียงและเหวี่ยงท่อนแขนโดนใบหน้าแฟนบอลที่พยายามถ่ายรูปเขาด้วยมือถือ หลังเหตุการณ์นั้นแฟนบอลในฝรั่งเศสถึงกับแอนตี้สตาร์ PSG รายนี้ไปเลย หลังจากพ่ายนัดชิงฟุตบอลเฟร้นส์คัพที่เจ้าตัวฟาดงวงฟาดงาลงกับแฟนบอลมีเหตุการณ์ฉาวต่อเนื่องในทีมอีกเมื่อเขาเปิดฉากฉะกับยูเลี่ยน ดรั๊กซ์เลอร์จนเกือบลงไม้ลงมือกันและหลังจากนั้นก็โจมตีเพรสแนล คิมเปมเบ้ผ่านสื่อว่าไม่ให้ความเคารพนักเตะรุ่นพี่ จะเป็นเซเล็ปไม่ได้หากไม่รู้จักเคลื่อนไหวในโลกโซเชี่ยล แน่นอนเนย์มาร์เองก็ใช้โซเชียลเป็นสื่อประชาสัมพันธ์หลักของตัวเองเช่นกันและการโพสต์อย่างเดือดดาลวิจารณ์ผู้ตัดสินหลังทีมพ่ายให้กับแมนฯยูฯกระเด็นตกรอบ UCL แม้จะเป็นข่าวดังสร้างยอดฟอลโล่วให้กับตัวเองได้ก็จริงแต่เจ้าตัวต้องรับกรรมโดนแบนสามเกมในฤดูกาลหน้าไปโดยปริยาย ฤดูกาล 2018-2019 ที่ผ่านมาสตาร์ชาวบราซิลโชว์ความใหญ่คับฟ้าอีกรอบด้วยการแหกวงการฟุตบอลฝรั่งเศสว่ามีมาตรฐานต่ำกว่าลา ลีก้า ลีกยักษ์ใหญ่ของสเปนที่เขาจากมา นักฟุตบอลในลีกฝรั่งเศสสู้เขาไม่ได้จึงพยายามเข้าบอลหนัก ๆ และผู้ตัดสินก็มักปล่อยให้นักเตะเหล่านั้นเล่นงานเขาโดยไม่ถูกลงโทษด้วยแถมในลีกที่เต็มไปด้วยนักฟุตบอลฝีเท้าธรรมดานั้นไร้ความท้าทาย […]

มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ลของอูไน เอเมอร์รี่

เชื่อว่านาทีนี้บรรดาผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ลีกคงไม่มีใครปวดหัวเท่าอูไน เอเมอร์รี่ผู้จัดการทีมเลือดสแปนิชของอาร์เซน่อลเพราะล่าสุดตัวเลขงบประมาณการทำทีมในฤดูกาลหน้าของเขาเปิดเผยสู่สาธารณะแล้วว่าผู้บริหารเจียดมาให้แค่ 40 ล้านปอนด์!!! อาร์เซน่อลที่มีเป้าหมายทำอันดับไปเล่นบอลยุโรป สเกลของทีมเล็กลงเพราะเสียนักเตะอย่างอารอน แรมซีย์ แดนนี่ เวลเบ็ค ปีเตอร์ เช็คและนาโช่ มอนเรอัล ทั้งยังต้องเล่นฟุตบอลถึงสี่รายการใคร ๆ ต่างก็ทราบว่างานนี้ของอูไน เอเมอร์รี่มันคือมิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ลชัด ๆ แต่หากวิเคราะห์ดูอย่างละเอียดแล้วก็ยังพอเห็นทางออกที่จะช่วยให้อดีตผจก.เซบีญ่าทำทีมบนงบประมาณอันน้อยนิดนี้ได้อยู่เหมือนกัน นักเตะโนเนม การเลือกซื้อนักเตะโนเนมฝีเท้าดีมาเพื่อเป็นแบ็คอัพโดยไม่เปลี่ยนแปลงทีมชุดใหญ่มากนักจะไม่เปลืองงบประมาณมากโดยเฉลี่ยนักเตะโนเนมจะมีราคาอยู่ที่ 1.5-5 ล้านปอนด์ซึ่งในงบ 40 ล้านปอนด์สามารถกว้านซื้อได้หลายคนไม่แน่หากแมวมองตาแหลมเลือกถูกคนอาจจะเจอนักเตะแบบช้างเผือกในป่าลึกก็เป็นได้ ซื้อเท่าที่จำเป็น ฤดูกาลที่ผ่านมาแนวรับของอาร์เซน่อลถือเป็นจุดอ่อนของทีมการทุ่มเงินทั้งก้อนซื้อนักเตะที่ฝากผีฝากไข้ได้เลยก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ด้วยตัวเงินที่พวกเขามีอาจจะพอได้กองหลังฝีเท้าดี 1-3 คนและนั่นอาจจะช่วยให้ผลงานของทีมดีขึ้นกว่าซีซั่นที่ผ่านมา ขายนักเตะ ปิแอร์ เอเมอร์ริค โอบาเมยองได้รับความสนใจจากทีมในจีนและแมนฯยูฯหากทีมปืนใหญ่ตกลงขายสัก 50-60 ล้านปอนด์ก็จะช่วยให้มีทุนในการทำทีมเพิ่มขึ้นและถึงแม้จะเสียกองหน้าผมตั้งอาร์เซน่อลก็ยังเหลืออเล็กซานเดร ลากาแซ็ตต์ที่ทำหน้าที่แทนกันได้ ไม่เพียงแต่โอบาเมยองเท่านั้นนักเตะอย่างมคิทาร์ยาน โอซิล หรือชาก้าบรรดาซูเปอร์สตาร์ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ทีมมากนักจะขายออกไปสักคนเพื่อระดมทุนในการทำทีมก็เข้าท่าดีไม่น้อย ยืมตัว อาร์เซน่อลยังพอมีบารมีในการยืมตัวนักเตะฝีเท้าดีจากทีมชั้นนำด้วยกัน นักเตะหลาย ๆ คนที่ไม่สามารถสอดแทรกทีมชุดใหญ่ได้กำลังรอโอกาสจะสร้างชื่อและถ้าทีมระดับอาร์เซน่อลยื่นมือเข้าไปมอบโอกาสให้เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะปฏิเสธลง ผลักดันดาวรุ่ง การผลักดันดาวรุ่งในอะคาเดมี่เป็นวิธีที่ควรทำควบคู่ไปกับทุกวิธีที่กล่าวมา และทีมปืนใหญ่ขึ้นชื่อว่าเป็นเซียนในด้านนี้อยู่แล้วจึงพอคลายกังวลได้แม้จะมีงบช็อปปิ้งน้อยก็ตามเพราะดาวรุ่งที่พวกเขาปลุกปั้นขึ้นมาส่วนใหญ่มีฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์เกินวัย แจ้งเกิดได้แทบทุกฤดูกาลซึ่งอาร์เซน่อลก็ควรใช้จุดแข็งด้านนี้เข้าสู้เพราะทุนทรัพย์ที่มีแข่งกับบรรดาบิ๊กทีมที่เหลือไม่ได้เลย แม้จะได้งบประมาณในการทำทีมน้อยจนน่าปวดหัวแต่อย่างไรอาร์เซน่อลก็ยังคงเป็นทีมใหญ่ คอนเน็คชั่นที่พวกเขามี บารมีที่สั่งสมมานานยังอาจพอช่วยในยามวิกฤตเช่นนี้ได้ อย่างไรก็ตามฝ่ายที่ควรทำใจที่สุดคือแฟนบอลไอ้ปืนใหญ่เพราะท่าทีของผู้บริหารแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาได้เปลี่ยนสถานะของสโมสรแห่งนี้จากทีมลุ้นแชมป์สู่ทีมลุ้นอันดับ 4-6 แล้วนั่นเอง

5 แข้งแจ้งเกิดเต็มตัวในโคปา อเมริกา 2019

เปิดฉากขึ้นแล้วกับฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ที่สุดของทวีปอเมริกาใต้อย่างโคปา อเมริกา 2019 หลังจากเริ่มแข่งขันกันไปจนจบรอบแรกมีหลายเกมน่าประทับใจ มีความตื่นเต้นเร้าใจฉบับอเมริกาใต้อย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นมีนักเตะหลายคนสามารถแจ้งเกิดได้อย่างสง่างามในรายการนี้ บางคนเพิ่งมีโอกาสติดทีมชาติ บางคนมีชื่อมานานแต่เพิ่งสามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวซึ่งเราก็ไม่พลาดคัดเอาดาวเตะที่โชว์ฟอร์มน่าประทับใจมาแนะนำให้รู้จักกัน เอเวอร์ตัน ปีกจรวดชาวแซมบ้าแจ้งเกิดได้ตั้งแต่เกมแรกในทัวร์นาเม้นต์เมื่อลงสนามมาแทนแฟร์นานดิญโญ่ ทันทีที่ลงสนามประจำการทางฝั่งซ้ายเกมตื้อ ๆ ของทีมชาติบราซิลก็ไหลลื่นขึ้นมาทันตาเห็น เอเวอร์ตันจัดการเผาเครื่องแบ็คขวาของโบลิเวียแบบไม่เกรงใจ ความเร็วของเขาฉีกแนวรับของคู่แข่งขาดกระจุยแถมยังทำประตูได้ตั้งแต่นัดแรกกับการลงสนามในสีเสื้อทีมชาติบราซิล ผลงานสุดแจ่มส่งผลให้ตอนนี้แมวมองทั่วยุโรปจ้องเจ้าหนูคนนี้ตาเป็นมันเลยทีเดียว ดูวาน ซาปาต้า แม้อายุอานามจะปาเข้าไป 28 ปีแล้วแต่ดาวยิงทีมชาติโคลัมเบียถือเป็นแข้งแจ้งเกิดช้าแม้จะได้อยู่กับทีมใหญ่อย่างนาโปลีแต่กว่าจะระเบิดฟอร์มออกมาก็เมื่อได้เป็นสมาชิกของอตาลันต้าด้วยวัย 26 ปีไปแล้ว ในนามทีมชาติก็เช่นกันโอกาสที่เขาจะสอดแทรกแจ็คสัน มาร์ติเนซกับราดาเมล ฟัลเกาตอนยังหนุ่ม ๆ เป็นไปได้ยากกองหน้าสุดบึ๊กจึงเพิ่งมีโอกาสรับใช้ทีมชาติในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ๆ เป็นหนแรกและทันทีที่ลงสนามในฐานะตัวสำรองดูวาน ซาปาต้าก็ลงมาเปลี่ยนเกมสังหารประตูคลายความกดดันในเกมกับทีมชาติอาร์เจนติน่าได้เลย วุยเคอร์ ฟาริเนซ ไม่บ่อยนักที่นักฟุตบอลในตำแหน่งผู้รักษาประตูจะแจ้งเกิดในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่แต่นายทวารวัยละอ่อนผู้นี้ทำได้ด้วยผลงานจบรอบแรกลงสนามสามนัดเสียไปเพียงหนึ่งประตู ที่สำคัญแนวรุกสุดอันตรายของทีมชาติบราซิลยังยิงประตูมือกาวผู้นี้ไม่ได้เสียด้วยทำให้เกมนั้นจบลงที่ผลเสมอ 0-0 ไม่แปลกเลยที่ทีมชาติเวเนซูเอล่าจะไว้วางใจให้เขาเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งแม้จะมีอายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น มิเกล อัลไมร่อน ปีกพรสวรรค์จากนิวคาสเซิ่ลเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองมานานหลายปีแล้ว เขาประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งใน MLS หรือเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ในสหรัฐอเมริกาก่อนบินลัดฟ้าข้ามมาเล่นในพรีเมียร์ลีกแต่ด้วยเวลาที่มีแค่หกเดือนกับทีมที่ฟอร์มแกว่งอัลไมร่อนจึงไม่ได้แสดงศักยภาพที่มีออกมาอย่างเต็มที่จนเมื่อได้ลงสนามกับทีมชาติปารากวัยนี่เองที่เขาฉายแสงออกมาอย่างแท้จริงด้วยสถิติลงสนามสามนัดจ่ายไปสามประตูแถมมีโมเม้นต์เท่ ๆ อย่างการชนะในการดวลตัวต่อตัวกับเลโอเนล เมสซี่เป็นความทรงจำดี ๆ อีกต่างหาก วิลมาร์ บาริออส ดูจากฟอร์มเปิดหัวทัวร์นาเม้นต์นี้แล้วทีมชาติโคลัมเบียชุดนี้มีสิทธิ์ไปไกลถึงแชมป์ได้เลยทีเดียวเพราะนอกจากแนวรุกระดับเวิร์ลคลาสเกมรับของพวกเขาก็เหนียวแน่นสุด […]

นักเตะเป้าหมายของทีม big 6 ในพรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีกเป็นลีกฟุตบอลอาชีพมาตรฐานสูงที่แต่ละทีมสมาชิกขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด เป็นลีกฟุตบอลที่ตำแหน่งแชมป์ไม่ผูกขาดอยู่แค่สองหรือสามทีมสามารถเปลี่ยนมือได้แทบทุกปีและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตัวผู้เล่นภายในทีมแต่ละปีนั้นสำคัญมาก เพราะผู้เล่นเพียงหนึ่งหรือสองคนอาจยกระดับทีมได้เลยเช่นเอ็นโกโล ก็องเต้ ที่ย้ายจากเลสเตอร์ ซิตี้สู่เชลซีและกลายเป็นหัวใจสำคัญพาเชลซีเป็นแชมป์ลีกในฤดูกาล 2016-2017 ดังนั้นฤดูกาล 2019-2020 ที่จะถึงนี้จึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่านักเตะผู้เป็นเป้าหมายของบรรดา big 6 ในพรีเมียร์ลีกเหล่านี้จะสามารถช่วยพาทีมไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ แมนฯซิตี้ แม้จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลล่าสุดแต่การได้แชมป์ด้วยคะแนนเฉือนลิเวอร์พูลเพียงแต้มเดียวทำให้ทีมเรือใบสีฟ้าวางใจไม่ได้ ในลีกมาตรฐานสูงเช่นนี้หากพวกเขาไม่รักษาฟอร์มการเล่นหรือนิ่งนอนใจไม่เสริมทัพก็อาจจะป้องกันแชมป์ไว้ไม่ได้ และจุดอ่อนเดียวที่ซิตี้มองเห็นในตอนนี้คือแฟร์นานดิญโญ่กองกลางพันธุ์ขยันของทีมที่เริ่มโรยราไปตามวัยและนักเตะตัวแทนกองกลางทีมชาติบราซิลที่เป็ป กวาดิโอล่าเล็ง ๆ อยู่ก็คือ โรดรี้กองกลางอายุน้อยจากแอตเลติโก มาดริด ลิเวอร์พูล ดูท่าเจอร์เก้น คล็อปยังไม่ขยับอะไรมากในช่วงต้นตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ส่วนหนึ่งอาจเพราะทีมที่มีอยู่ค่อนข้างลงตัวอีกส่วนคืออาจต้องระบายนักเตะส่วนเกินของทีมก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าขาดเหลืออะไรบ้างโดยหลัก ๆ แล้วทีมหงส์แดงอาจต้องการแบ็คซ้ายหนึ่งคนแทนที่โรเบอร์โต้ โมเรโน่ที่หมดสัญญากับทีมเพื่อเอามาเป็นสำรองของแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และกองหลังตัวกลางอีกหนึ่งคนแทนที่เดยัน ลอฟเรนโดยนักเตะที่เกเก้น คล็อปป์หมายตาอยู่ก็มี คีแรน เทียร์นีย์แบ็คซ้ายจากเซลติกและคาลิดู คูลิบาลี่จากนาโปลีแต่อาจมีเซอร์ไพรส์ให้แฟน ๆ ได้จิ้นนิด ๆ เพราะตอนนี้คีลียัน เอ็มบัปเป้กองหน้าตัวจี้ดจาก PSG ออกตัวสุดลิ่มทิ่มประตูว่าอยากมาจอยกับทีมหงส์แดงในฤดูกาลหน้า เชลซี ทีมสิงโตน้ำเงินครามไม่มีสิทธิ์เซ็นใครมาร่วมทีมทั้งฤดูกาลเพราะถูกฟีฟ่าแบนจากความผิดฐานซื้อนักเตะดาวรุ่งแบบผิดกฏดังนั้นพวกเขาจะไม่ได้ใครมาร่วมทีมนอกจากคริสเตียน พูลิซิชปีกอนาคตไกลจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนที่มีการตกลงซื้อขายกันล่วงหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ นี่จะเป็นปีที่ทีมไก่เดือยทองอาจใช้จ่ายเกินกว่าร้อยล้านปอนด์เพราะฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาไม่เสียเงินซื้อนักเตะเลยแม้แต่เพนนีเดียว โครงการในปีนี้ของบิ๊กทีมจากลอนดอนเหนือจึงเป็นเมก้า โปรเจ็คยกเครื่องทีมทั้งระบบซึ่งอาจมีนักเตะแกนหลักหลายคนที่ย้ายออกไปซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะมีใครบ้างแต่ตอนนี้ตำแหน่งที่พวกเขาต้องการแน่ ๆ คือกองกลางที่ว่างอยู่ตั้งแต่มุสซ่า เด็มเบเล่ย้ายออกไปตอนกลางฤดูกาลและดูเหมือนว่าทีมงานของโปเช็ตติโน่จะตาแหลมเสียด้วยเพราะเล็งเป้าไปที่ต็องกี เอ็นดอมเบเล่กองกลางเนื้อหอมจากโอลิมปิค […]

ปัญหาใหญ่ในซัมเมอร์นี้ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ทุกคนทราบดีว่าการไม่สามารถจบ 1 ใน 4 อันดับแรกของตารางในฤดูกาลที่ผ่านมานับเป็นความล้มเหลวสำหรับทีมระดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนไม่คาดคิดคือความล้มเหลวนี้กำลังจะส่งผลให้แมนฯยูฯต้องพบกับความระส่ำระสายอีกรอบ โดยเฉพาะเรื่องวุ่น ๆ เกี่ยวกับนักเตะทั้งขาเข้าและขาออกซึ่งต้องบอกว่างานของทีมปิศาจแดงไม่ง่ายเลยเมื่อต้องพบกับปัญหาใหญ่ถึงสามประการด้วยกันในซัมเมอร์นี้ มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ตัวแสบคอยก่อกวนทีมปิศาจแดงมาเสมอตั้งแต่ยุคของผจก.โจเซ่ มูริญโญ่ เขามีความไม่พอใจเป็นทุนเดิมที่ถูกแมนฯยูฯสั่งห้ามไม่ให้เข้าออกสโมสรตามอำเภอใจ ไม่ให้เข้าไปยุ่มย่ามกับการจัดการนักเตะในความดูแลประกอบกับตอนนี้ไม่ต้องการให้นักเตะชื่อดังของเขาต้องไปเล่นถ้วยรองของยุโรปให้เสื่อมมูลค่าลงไปอีกการณ์นั้นไรโอล่าจึงพยายามนำนักเตะของเขาออกจากถิ่นโอล แทรฟฟอร์ดทั้งโรเมอู ลูกากูและปอล ป็อกบา ในรายของลูกากูเป็นไปได้สูงที่จะย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลานเพราะตอนนี้มีการเปิดโต๊ะเจรจากันอย่างจริงจังแล้ว ส่วนป็อกบาก็คงเป็นอีกรายที่จะย้ายออกแน่นอนเพราะแสดงจุดยืนชัดเจนว่าต้องการแสวงหาความท้าทายใหม่ การต้องเสียสองดาวดังโดยเฉพาะมิดฟิลด์แชมป์โลกจะส่งผลกับยูไนเต็ดแน่นอนเพราะฤดูกาลที่ผ่านมาป็อกบาเป็นนักเตะที่แบกทีมมาตลอดซึ่งสถิติบ่งชี้เด่นชัดทั้งการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีม ผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุด ตัดบอลมากที่สุดและสร้างสรรค์โอกาสทำประตูมากที่สุดด้วย การซื้อตัวนักเตะ ด้วยผลงานสุดล้มเหลวของทีมประกอบกับตำแหน่งผู้จัดการทีมที่ไม่มั่นคงนักเตะระดับโลกหลายคนจึงปฏิเสธร่วมทัพปิศาจแดง ยังไม่พอการเลือกผู้เล่นระดับรองลงมาก็ไม่วายถูกอัพราคาขึ้นอีกอย่างแฮร์รี่ แม็คไกวร์ถูกเลสเตอร์ ซิตี้แปะราคากว่า 80 ล้านปอนด์ แอรอน วาน-บิสซาก้าแบ็คซ้ายดาวรุ่งจากคริสตัน พาเลชเองก็ไม่น้อยหน้าพอเป็นทีมระดับยูไนเต็ดให้ความสนใจราคาก็เลยเถิดไปถึง 60 ล้านปอนด์ซึ่งแพงกว่าแบ็คขวา ยี่ห้อแชมป์อย่างไคล์ วอล์กเกอร์เสียอีก ไม่เท่านั้นงานของโอเล่ กุนนาร์ โซลชายังยากขึ้นไปอีกเพราะการซื้อขายตัวนักเตะต้องผ่านความเห็นชอบจากเอ็ด วู้ดเวิร์ดด้วย “เอ็ด…เป็นนายธนาคารที่รู้จักเพียงเรื่องธุรกิจแต่ความรู้เรื่องฟุตบอลของเขาเป็นศูนย์” นี่คือความเห็นที่ตรงกันของหลุยส์ ฟาน กัล และ โจเซ่ มูริญโญ่ สองผู้จัดการทีมที่เคยผ่านความยากลำบากในการคุมทีมปิศาจแดงมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ง่ายเลยที่โซลชาจะได้ตัวนักเตะที่เขาต้องการจริง […]

สำหรับฟุตบอลนั้น ช้า ๆ ไม่ได้พร้าสักเล่ม

ถ้าพูดถึงสโมสรใหญ่ทุกคนคงนึกถึงทีมที่มีฐานแฟนบอลอยู่ทั่วโลก มีเม็ดเงินมหาศาล ในทีมประกอบด้วยแข้งระดับเวิร์ลคลาสมากมาย แต่ทีมใหญ่ที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้ตรงกันข้ามกับทุกอย่างที่กล่าวไป ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนแทบทุกปี แถมตกชั้นเป็นว่าเล่น ไม่มีนักเตะระดับโลกอยู่เลย หลายคนคงนึกออกทันใด ใช่แล้วล่ะนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดนั่นเอง ไมค์ แอชลีย์ประธานสโมสรคือคนที่เหล่าบรรดาทูนอาร์มี่จงชังกว่าใคร เขาคือคนที่ทำให้นิวคาสเซิ่ลทรง ๆ ทรุด ๆ อยู่ตลอดเพราะนโยบายการบริหารสโมสรที่ไร้ความทะเยอทะยาน ไมค์ แอชลีย์หวังพึ่งฟ้าพึ่งฝนให้ทีมใช้เงินน้อยที่สุดในขณะเดียวกันก็หวังว่าผลงานของนักเตะที่มีจะดีขึ้นมาแบบฟลุ๊ค ๆ เพื่อจะขายนักเตะที่ทำผลงานดีเหล่านั้นออกไปแบบแพง ๆ  เช่นเดียวกับกรณีจิออจิโอ้ ไวจ์นัลดุมกับมุสซ่า ซิสโซโก้ที่ได้เงินรวมกันกว่า 70 ล้านปอนด์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเป้าหมายของทีมมีเท่านี้จริง ๆ คือซื้อนักเตะถูก ๆ มาปั้นเพื่อขายออกไปโดยไม่สนผลงานของทีมถึงจะตกชั้นก็ตาม แสบกว่านั้นคือแม้จะขายนักเตะได้เงินมหาศาลแต่เงินจำนวนนั้นไม่ได้นำมาปรับปรุงทีมเลย ประธานสุดตืดยังคงจำกัดทุนในการทำทีมไว้แค่ 15-30 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งราฟาเอล เบนิเตซออกมาบ่นผ่านสื่อเลยว่าเจ้าของสโมสรผู้นี้ไม่รักษาคำพูดกับเขาทั้งที่ก่อนเซ็นสัญญาคุมทีมมีการรับปากว่าจะให้งบช็อปนักเตะกับเบนิเตซแบบไม่อั้นแต่พอเอาเข้าจริง ๆ ให้งบสำหรับการทำทีมลุยพรีเมียร์ลีกแค่ 15 ล้านปอนด์เท่านั้น แน่นอนหลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดการทีมกับเจ้าของสโมสรเกิดความไม่ลงรอยมาตลอด แต่แล้ววันฟ้าเปิดของราฟาเอล เบนิเตซและบรรดาสาวกทูน อาร์มี่ก็มาถึงเมื่ออยู่ ๆ ไมค์ แอชลีย์ประกาศขายสโมสรแบบที่ใครก็คาดไม่ถึง จากนั้นไม่นานก็ได้อแมนด้า สเตฟลี่ย์เศรษฐีณีนักธุรกิจติดต่อขอเทคโอเวอร์สโมสร ทุกอย่างดูราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดีและดูท่านิวคาสเซิ่ลจะได้เจ้าของใหม่อยู่รอมร่อแต่ท้ายที่สุดการเจรจาล่มไม่เป็นท่าเพราะไมค์ต้องการขายสโมสรด้วยราคาสุดแพงชนิดเป็นไปไม่ได้ เศรษฐีณีจากยอร์เชียร์เห็นว่าถูกเอาเปรียบเกินไปจึงเซย์โนแล้วเดินจากไปแบบไม่หวนกลับอีกเลย ท้องฟ้าเมืองนิวคาสเซิ่ลกลับสู่ความอึมครึมอีกครั้งจนถึงช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมาเมื่อทีมอย่างนิวคาสเซิ่ลจมอยู่ก้นตาราง มูลค่าของสโมสรตกลงไปและไมค์ […]

เมื่อจิ้งจอกสยามคิดจะทำการเปลี่ยนจ่าฝูง

ทีมผู้บริหารจิ้งจอกสยามเลสเตอร์ ซิตีสั่งปลดโกลด ปูแอล ผู้จัดการทีมตามคาดเซ่นผลงานลุ่ม ๆ ดอน ๆ ทำตัวเป็นโรบินฮู้ดที่แบ่งแต้มทีมใหญ่ไปแจกทีมเล็กพร้อมทั้งแต่งตั้งกุนซือตาหวานเบรนแดน ร็อดเจอร์สอดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลเข้ามารับตำแหน่งแทน ซึ่งนักวิจารณ์หลายคนต่างมองว่าผู้บริหารของเลสเตอร์มีความคิดเฉียบแหลมทีเดียวเพราะนาทีนี้ร็อดเจอร์สดูเหมาะสมกับทีมจิ้งจอกเป็นที่สุดและคุณสมบัติที่บอกว่าเขาคือคนที่ใช่มีดังต่อไปนี้                 รูปแบบการเล่น หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าระบบหลังสามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันก่อนที่อันโตนิโอ คอนเต้จะนำมาใช้จนประสบความสำเร็จมันเคยถูกนำเข้ามาในพรีเมียร์ลีกโดยเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซึ่งหลังจากติดตั้งระบบดังกล่าวลิเวอร์พูลที่ไม่เคยเข้าใกล้แชมป์เลยกลับได้ลุ้นจนเกือบเข้าวินมาแล้ว นอกจากนั้นกุนซือตาหวานยังมีลูกหนักในแผนฟุตบอลแบบสวนกลับอันเป็นสูตรสำเร็จที่เคยพาเลสเตอร์เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้วนั่นเอง แต่ใช่ว่าเขาจะมีแผนการเล่นตายตัวเท่านี้ไม่ว่าจะเป็น 4-2-3-1, 4-3-3 หรือ 3-5-2 ร็อดเจอร์ต่างเคยนำมาปรับใช้กับทีมที่เขาบริหารจัดการแทบทั้งสิ้น                 คอนเน็คชั่น กุนซือผู้นี้มีสายสัมพันธ์อันดีกับนักเตะในทีมทั้งยังเป็นมิตรกับสโมสรที่เขาเคยร่วมงานหรือแม้แต่ทีมคู่แข่งดังนั้นการเจรจาซื้อขายตัวนักเตะฉบับร็อดเจอร์สมักจะราบรื่นเสมอและด้วยบารมีชื่อเสียงที่สั่งสมมานานนักเตะชั้นดีจึงไว้ใจที่จะร่วมงานด้วยในระยะยาว ต่างจากโกลด ปูแอลที่นักเตะหลายคนออกมาแฉว่าร่วมงานด้วยยากแถมยังไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้เล่นอีกด้วย                 ผลงานในอดีต การพาสวอนซี ซิตี้ขึ้นชั้นมาจากลีกเดอะ แชมเปียนส์ชิปและอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้ตลอดระยะเวลาในการทำทีมคือผลงานเด่นสร้างชื่อให้เขามาจนทุกวันนี้ หลังจากนั้นการย้ายไปคุมทีมลิเวอร์พูลก็ทำให้ทีมหงส์แดงได้ไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสำเร็จตามเป้าแถมยังเกือบได้แชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย ผลงานระดับมาสเตอร์พีชล่าสุดคือพาเซลติกเป็นแชมป์สก็อตติช พรีเมียร์ชิปอย่างอาจมอง เห็นได้ชัดว่าแม้สโมสรจะตั้งเป้าหมายไว้ตรงไหนร็อดเจอร์สต่างทำได้ตามเป้าแทบทั้งสิ้น ดังนั้นทีมที่เป้าหมายไม่ใหญ่มากอย่างเลสเตอร์แทบไม่ต้องพูดถึงการันตีได้เลยว่าไม่เกินมือผู้จัดการทีมมากฝีมือรายนี้อย่างแน่นอน                 เหตุผลเหล่านี้คือสิ่งที่บ่งบอกว่าเบรนแดน ร็อดเจอร์สคือผู้จัดการทีมที่เหมาะสมจะเข้ามากุมบังเหียนเลสเตอร์ ซิตี้ในนาทีนี้เหลือเกิน แม้เลสเตอร์ในตอนนี้จะไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะลุ้นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพราะพวกเขาอยู่กลางตารางห่างจากโซนตกชั้นกว่าสิบคะแนนจะเรียกว่าปลอดภัยแล้วก็คงได้แถมห่างจากทีมอันดับหกที่จะได้ไปเล่นยูโรปาลีกถึงสิบเอ็ดคะแนนซึ่งต้องบอกว่าหมดลุ้นไปแล้วเช่นกัน แม้รู้อย่างนั้นผู้บริหารทีมจิ้งจอกสยามก็ไม่ได้ปล่อยเลยตามเลยพวกเขาเลือกตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมตั้งแต่วันนี้เพื่อปูรากฐานในอนาคต นี่คือความคิดของคนที่มีภาวะผู้นำซึ่งสื่อต่างยกย่องว่าทีมผู้บริหารเลสเตอร์ค่อนข้างมีวิสัยทัศน์ที่ดีเลยทีเดียว

ฤดูสุดท้ายแล้ว ที่สองทีมนี้จะวืดแชมป์?

ในช่วงกว่าทศวรรษไม่มีฤดูกาลใดที่หอมหวานไปกว่านี้สำหรับทีมอย่างลิเวอร์พูลและโบรุสเซีย ดอร์ทมุน ช่วงกลางฤดูกาลทีมดังจากเกาะอังกฤษทิ้งห่างอันดับสองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถึงเจ็ดคะแนนแถมทรงฟุตบอลยังดุดันเร้าใจไม่เพลี่ยงพล้ำง่าย ๆ ต่อทีมเล็กดูมีอนาคตกว่าที่ผ่าน ๆ มา ด้านทีมเสือเหลืองจากเยอรมนีเองก็นำโด่งเป็นจ่าฝูงทิ้งห่างอันดับสองอย่างบาเยิร์น มิวนิค ชนิดไม่เห็นฝุ่นกว่าเก้าคะแนนแถมไม่มีอาการแข้งไหลเหมือนแต่ก่อนนักเตะคนสำคัญของทีมอยู่กันครบประกอบกับนักเตะดาวรุ่งพากันแจ้งเกิดแทบทุกตำแหน่ง ปัจจัยแวดล้อมที่เกื้อหนุนทำให้ตำแหน่งแชมป์ลีกของทั้งสองทีมแทบจะนอนมาเลยก็ว่าได้ ศักราชใหม่ในปี 2019 ทุกอย่างดูจะไม่เป็นดังหวังเสียแล้วไป ๆ มา ๆ ลิเวอร์พูลกลับตกลงมาอยู่ที่สองมีแต้มตามหลังแมนฯซิตี้หนึ่งแต้มด้านดอร์ทมุนเองก็ช็อตเอาดื้อ ๆ ปล่อยให้บาร์เยิร์น มิวนิคทำแต้มขึ้นมาเท่าพวกเขาอีกจนได้ อะไรคือความเสี่ยงที่ทำให้พวกเขากำลังจะมือเปล่าไร้แชมป์ไปอีกหนึ่งฤดูกาลและอะไรคือจุดอ่อนที่พวกเขาต้องรีบแก้ไขโดยด่วนมาหาคำตอบไปด้วยกัน ลิเวอร์พูล ทีมหงส์แดงทีมนี้แกร่งทั่วแผ่นจนแทบไม่มีจุดอ่อน แต่เป็นเรื่องจริงที่ทีมเคยท้าชิงกับทีมเคยได้แชมป์นั้นต่างกัน การยืนระยะหลังจากนักเตะสำคัญบาดเจ็บลิเวอร์พูลทำได้ไม่ดีนักพอไม่มีเดยัน ลอฟเรน โจ โกเมซ โจเอล มาติ๊ป และเทรนด์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลในช่วงเวลาที่ต่างกันผลงานของลิเวอร์พูลสะดุดอยู่หลายครั้งต่างจากแมนเชสเตอร์ ซิตีที่แม้      เควิน เดอ บรอยน์ ดาบิด ซิลบา และจอห์น สโตนจะไม่ได้อยู่ช่วยทีมผลงานของทีมก็ยังคงเส้นคงวาเก็บแต้มได้สม่ำเสมอ อีกปัจจัยสำคัญคือฟอร์มการเล่นของดาวยิงประจำทีมอย่างโมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ที่ฤดูกาลนี้ตกลงไปพอสมควรแถมยามต้องเจอทีมใหญ่ด้วยกันดาวยิงหัวฟูไม่สามารถทำประตูทีมไหนได้เลยจะเรียกว่าถนัดยิงแต่ทีมเล็กก็คงไม่ผิด ซึ่งถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไปแฟนบอลลิเวอร์พูลก็มีสิทธิ์แห่ซาเล้งเก้อไปอีกหนึ่งฤดูกาล โบรุสเซีย ดอร์ทมุน เดจาวูของทีมเสือเหลืองก็ไม่ต่างจากทีมหงส์แดงเท่าไรนัก อาการบาดเจ็บของผู้เล่นที่กำลังฟอร์มกระฉูดอย่างมาร์โก รอยส์ ปาโบล อัลกาแซร์ส่งผลอย่างมากกับยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี แม้ดาวรุ่งที่ขึ้นชั้นมาผลงานจะน่าเป็นปลื้มแต่การเชื่อมั่นในฝีเท้าและเลือกพึ่งพาเด็ก ๆ มากกว่านักเตะมากประสบการณ์ไม่เป็นผลดีต่อทีมที่ต้องเจอแรงกดดันมหาศาลในระดับลุ้นแชมป์ […]