เรื่องราวของค่าตัวนักฟุตบอลอันโชติช่วงชัชวาลย์

ค่าตัวเนย์มาร์ที่เป็นตัวเลขสวย ๆ ที่ระบุไว้ 222 ล้านยูโรเมื่อย้ายจากบาเซโลน่าไปสู่ปารีส แซงแชร์กแมง รองลงมาก็คีเลียน เอ็มบัปเป้ อยู่ที่ 180 ล้านยูโร ถ้าเทียบเป็นเงินไทยก็มหาศาลหลายพันล้านบาทอยู่เหมือนกัน สมัยฤดูกาล 1997/1998 โรนัลโด้ R9 ย้ายจากบาเซโลน่าไปอินเตอร์มิลาน ค่าตัวยังประมาณ 19 ล้านยูโรเท่านั้นเอง จนถึงฤดูกาลที่ 2001/2002 สถิติค่าตัวที่แพงที่สุดในโลกจึงกระโดดขึ้นไปถึง 77 ล้านยูโร ด้วยเหตุการณ์ที่รีลมาดริดทุ่มข้อเสนอบ้าคลั่งเพื่อเซ็นสัญญาสุดยอดเพลเมกเกอร์ ซีเนอดีน ซีดาน โดยในฤดูกาลนั้นเองซีดานก็ตอบแทนเม็ดเงินราชันย์ด้วยการวอลเล่ย์นอกกรอบด้วยเท้าซ้าย ให้พลพรรคโลสบลังโกสมีชัยเหนือห้างขายยาไบเออร์เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ไปอย่างงดงาม และเป็นเวลาถึง 8 ปี ที่ค่าตัวสถิติโลกของซีดานไม่สามารถมีใครมาทำลายได้ จนกระทั่งฤดูกาล 2009/2010 รีลมาดริดเจ้าเก่าก็ทุ่มเงินอีกครั้ง ด้วยการคว้าตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง เพราะในช่วงเวลาที่โรนัลโด้CR7อยู่ที่รีลมาดริด เขาสามารถพาทีมคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ได้ถึง 4 ครั้ง โดยเฉพาะแชมป์ 3 สมัยซ้อน 2015/2016, 2016/2017, 2017/2018 แต่ทว่าแชมป์ลาลีก้าทำได้เพียง 2 สมัย คือ 2011/12, 2016/17

ยิ่งตอนเอ็มบัปเป้คว้าแชมป์ฟุตบอล 2018 ค่าตัว 180 ล้านยูโร และวัยเพียง 19 ปี เมื่อเทียบกับสถิติของเนย์มาร์ 222 ล้านยูโร ดูท่าทางค่าตัวแพงที่สุดในโลกของเบอร์ 10 ทีมชาติบราซิลคนปัจจุบันจะไม่มั่นคงเสียแล้ว ยิ่งมีเศรษฐีบ้าคลั่งเยอะ ๆ อยู่ ถ้าอีกปีหรือสองปี จะมีทีมไหนมายื่นค่าตัวเอ็มบัปเป้ด้วยเงิน 300 ล้านยูโร น่าจะไม่ไกลเกินความคิดสักเท่าใดนัก หรือจะอัดไป 350 ล้านยูโร ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องของการเสนอซูเปอร์ดีล ลองมาดูค่าตัวนักเตะคุณภาพแต่ชื่อเสียงยังมีไม่มากนัก เช่น ลูคัส ตอเรย์ร่า ที่อาเซน่อลเพิ่งจ่าย 30 ล้านยูโร หรือเจา คันเซโล่ ที่ยูเวนตุส ควักเงิน 40 ล้านยูโร ก็ดูจะเป็นมาตรฐานของกลุ่มนักบอลเก่งแต่ยังไม่ดัง ในส่วนของผู้รักษาประตู สถิติ 52 ล้านยูโรของจานลุยจิ บุฟฟ่อน ที่อยู่ยงคงกระพันเป็นมือโกล์แพงที่สุดในโลก นาน 17 ปี ก็ถูกทำลายสถิติด้วยการย้ายทีมของอลิสสัน เบ็คเกอร์ จากโรม่า ไปสู่ ลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 75 ล้านยูโร แต่ประตูแซมบ้าแพงที่สุดได้แป๊บเดียว ก็ถูกทำลายโดยเงินค่าตัว 80 ล้านยูโรของเคป้า อลิซาบาลาก้า ที่เชลซียื่นให้แอธเลติก บิลเบา

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของฟุตบอลนั้น ทีมไหนอยากเก่งต้องลงทุน ทุ่มทุนมาก ๆ ก็เก่งเอง แต่ต้องมีสายตาที่เฉียบแหลม เลือกนักเตะได้ถูกตัวด้วย ไม่ใช่แบบตอนที่แมนเชสเตอร์ซิตี้เพิ่งรวยใหม่ ๆ ก็เอาแต่ทุ่มจับคนเก่ง ๆ มาดอง มีกองหน้าพระกาฬอยู่เพียบ แต่ใช้จริงไม่กี่คน ดังนั้นการที่บาเซโลน่าจ่ายค่าเหนื่อยให้เมสซี่ 550,000 ยูโรต่อสัปดาห์ก็ถือว่าคุ้มทุน เพราะฟอร์มการเล่นของกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่าก็ตอบแทนสโมสรมานักต่อนัก หรือการที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อายุ 33 ปีแล้วค่าตัวยังอยู่ที่ 100 ล้านยูโร นั่นก็ต้องดูทั้งความคุ้มค่าทางการตลาด แค่มีข่าวกับโด้ หุ้นของยูเว่ก็ขึ้นไป 11% แล้ว พอมาวันแรกเสื้อโรนัลโด้สีขาวดำหมายเลข 7 ยังขายได้เกินห้าแสนตัว แล้วคนยังรอมาดูเจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัยลงแข่งอีกเพียบ เรียกว่า 100 ล้านยูโรที่ม้าลายจ่ายไป “ถูกยังกับถั่ว”  จึงเห็นภาพได้ชัดว่า ซื้อของดีมาใช้ยังไงก็คุ้ม